*แจ้งวันหยุด* ทางบริษัทจะปิดทำการวันที่ 22 และ 29 กรกฎาคม 67 ตามปฏิทินวันหยุดของไทย เพราะฉะนั้นออเดอร์จะทำการจัดส่งอีกครั้งในวันทำการถัดไป

Official Raspberry Pi 5 (4GB/8GB) Single Board Computer

THB2,495.00 - THB4,860.00 (VAT included)
เงินคืน: THB69.95 - THB134.90
  • Mainboard ONLY
  • Ori Kit
  • 8 GB
  • 4 GB
สินค้าในสต๊อก: 255

Buy locally from a partner

ประเทศ:
รายละเอียด

หมายเหตุ: เฉพาะบอร์ดรุ่น 8GB และ 4GB ที่ะพร้อมวางจำหน่ายในวันเปิดตัว โดยรุ่น RAM 2GB และ 1GB อาจจะวางจำหน่ายภายในปี 2024

 


 

Raspberry Pi ที่ทรงพลังที่สุด - Raspberry Pi 5

 

 

Raspberry Pi คืออะไร

 

Raspberry Pi เป็น Single Board Computer ที่ถูกพัฒนาโดยมูลนิธิ Raspberry Pi ในสหราชอาณาจักรเพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาการคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานในโรงเรียนและประเทศกำลังพัฒนา โดย Raspberry Pi ได้กลายเป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ แม้จะนำไปใช้นอกเหนือขอบเขตการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ไอที หรือแม้แต่ภาคอุตสาหกรรมต่างใช้ Raspberry Pi ในการสร้างระบบ IR4.0

 

 

บอร์ด Raspberry Pi สามารถทำงานได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์มาตรฐานทั่วไปเกือบทั้งหมด แต่อยู่ในขนาดที่กะทัดรัดกว่า! โดยมี CPU, GPU, RAM, พอร์ต HDMI, USB, การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สาย WiFi, Bluetooth และ Ethernet , อินเทอร์เฟซสำหรับการเชื่อมต่อกล้อง และ microSD slot นอกจากนี้ GPIO ที่คุณสามารถใช้เพื่อเชื่อมต่อกับส่วนประกอบอื่นๆ เปลี่ยน Single Board Computer ของคุณให้เป็นสมองของต้นแบบ หรือแม้แต่สร้างหุ่นยนต์ของคุณเอง!

 

Raspberry Pi 5 ได้มีการปรับปรุงมากมายเมื่อเทียบกับรุ่นพี่รุ่นก่อน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำอะไรกับบอร์ด Raspberry Pi ได้มากขึ้น โดยตารางด้านล่าง คือตารางเปรียบเทียบระหว่าง Raspberry Pi 5 กับ Raspberry Pi 4 Model B

 

 

จุดเด่นของ Raspberry Pi 5

 

CPU, GPU และ RAM ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม

ตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 เลือกใช้งาน CPU แบบ ARM Cortex-A76 ที่สามารถโอเวอร์คล็อกความเร็วได้สูงสุดถึง 2.4GHz มาพร้อมกับ GPU VideoCore VII ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 นั้นเร็วกว่า Raspberry Pi 4 Model B มากถึง 2 - 3 เท่า! นอกจากนี้ Raspberry Pi 5 ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับโปรเจ็กต์ของคุณที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลสูง เช่น การทำงานของ AI (ปัญญาประดิษฐ์) หรือการเรนเดอร์กราฟิกที่มีความซับซ้อน โดย Raspberry Pi 5 ได้รับการออกแบบมา โดยใช้งาน RAM แบบ LPDDR4X-4267 ที่มีขนาด RAM ให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 8GB, 4GB, 2GB และ 1GB (จะมีตัวเลือก RAM เพียง 8GB และ 4GB เท่านั้นระหว่างการเปิดตัว) พร้อมทั้งมี RAM Indicator ที่แสดงให้เห็นบนตัวบอร์ด ทำให้การตรวจสอบขนาด RAM ของ Raspberry Pi 5 นั้น ง่ายกว่า Raspberry Pi 4 Model B อย่างแน่นอน!

 

หมายเหตุ: เฉพาะรุ่น 8GB และ 4GB เท่านั้นที่จะมีวางจำหน่ายในช่วงเปิดตัว รุ่น 2GB และ 1GB อาจเปิดตัวในปีหน้า (2024)

 

USB 3.0 ที่เร็วกว่าเดิม

เช่นเดียวกับ Raspberry Pi 4 Model B ตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 นั้นมาพร้อมกับ USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ซึ่งความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลนั้นสูงกว่า USB 2.0 เป็นอย่างมาก ทำให้เหมาะสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ต้องการความสามารถในการส่งผ่านข้อมูลความเร็วสูง เช่น External SSD หรือแฟลชไดรฟ์ นอกจากนี้ยังมี USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ต สำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั่วไป เช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ โดยหากเปรียบเทียบพอร์ต USB 3.0 ของ Raspberry Pi 4 Model B กับ พอร์ต USB 3.0 ของ Raspberry Pi 5 จะพบว่าพอร์ต USB 3.0 ของ Raspberry Pi 5 นั้นมีความเร็วที่สูงกว่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากรองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดได้ถึง 5Gbps พร้อมกัน! ทำให้คุณสามารถใช้งาน USB Storage devive หรือ SSD ที่รวดเร็วสองตัวได้พร้อมๆกันทั้งสองพอร์ตในเวลาเดียวกัน!

 

2 x 4-lane MIPI ports (CSI/DSI)

พอร์ต MIPI 2 x 4 lane รองรับทั้ง DSI (จอแสดงผล) และ CSI (กล้อง) โดยที่คุณสามารถที่จะเลือกเชื่อมต่อกล้องกับจอพร้อมกันอย่างละ 1 พอร์ต หรือจะต่อกล้องพร้อมกันทั้ง 2 พอร์ตพร้อมกัน หรือเชื่อมต่อจอกับทั้ง 2 พอร์ตพร้อมกันก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงว่าพอร์ตไหน ใช้งานกับกล้องหรือจอ!

 

รองรับกำลังไฟเลี้ยงที่สูงขึ้น

Raspberry Pi 5 สามารถรองรับแหล่งจ่ายไฟได้สูงสุด 5V ที่ 5A ผ่านการเชื่อมต่อ USB Type C พร้อมด้วยเทคโนโลยี PSU PD (Power Delivery) แบบพิเศษ ซึ่งหากคุณกำลังวางแผนที่จะใช้ Raspberry Pi 5 สำหรับโปรเจ็กต์ที่คาดว่าจะมีการใช้พลังงานสูง (เช่น AI, Image Processing ฯลฯ) คุณอาจพิจารณาเลือกใช้งานเป็น PD PSU อย่างเป็นทางการจาก Raspberry Pi สำหรับ Raspberry Pi 5 ตัวใหม่ของคุณ เพราะ PD PSU รุ่นใหม่นั้นสามารถส่งแรงดันไฟฟ้าและกระแส 5V@5A (พร้อมทั้งยังรองรับโหมด PD มาตรฐาน 5V@3A, 9V@3A, 12V@2.25A และ 15V@1.8A) นอกจากนี้ Raspberry Pi 5 ก็ยังสามารถใช้งานร่วมกับ PSU สำหรับ Raspberry Pi 4 Model B ได้อยู่ แต่จะทำให้กระแสไฟฟ้าที่พอร์ต USB ของ Raspberry Pi 5 นั้นสามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดเพียง 600mA (เนื่องจากตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 จะตรวจสอบ PSU ที่ใช้งานกับตัวบอร์ดโดยอัตโนมัติและทำการปรับเปลี่ยนการจ่ายกระแสผ่านทางพอร์ต USB ตามมาตรฐานและข้อจำกัดการจ่ายกระแสไฟ)

 

ปุ่มเปิด-ปิดตัวบอร์ด

ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้หลายๆคนรอคอยมานาน :) โดยตอนนี้บนตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 มาพร้อมกับปุ่มเปิด/ปิดบนตัวบอร์ดแล้ว! ทำให้คุณสามารถเปิดและปิด Raspberry Pi 5 ได้อย่างปลอดภัยด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว โดยไม่ต้องสัมผัสปลั๊กไฟ เหมือนกับการใช้งานแล็ปท็อปหรือพีซีทั่วไป

 

RTC และพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อแบตเตอรี่สำหรับ RTC โดยเฉพาะ

Raspberry Pi 5 มาพร้อมกับ Power Management IC (PMIC) ที่ออกแบบเอง ซึ่งนอกจากรองรับการจัดการพลังงานที่สูงขึ้นแล้ว ยังมาพร้อมกับ RTC (Real Time Clock) ในตัวอีกด้วย ซึ่งหากต้องการใช้งาน RTC จำเป็นจะต้องใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ภายนอก โดยตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 นั้นก็มาพร้อมกับพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อใช้งานแบตเตอรี่ RTC โดยเฉพาะ โดยเมื่อใช้แบตเตอรี่ RTC จะทำงานเพื่อรักษาเวลาให้เดินตามปกติ แม้ตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 ถูกปิดการทำงาน หรือไม่ถูกจ่ายไฟให้กับตัวบอร์ด ช่วยให้โปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้องกับเวลาของคุณมีเสถียรภาพและเชื่อถือได้

พอร์ต UART สำหรับการ Debug โดยเฉพาะ

บนตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 มาพร้อมกับพอร์ต UART สำหรับการสื่อสารกับอุปกรณ์ต่อพ่วง หรือ Debug การทำงานของตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 โดยเฉพาะ ทำให้คุณสามารถใช้งานพอร์ตนี้ ร่วมกับอุปกรณ์สื่อสาร UART ใดก็ได้ที่คุณต้องการ หรือจะใช้งานสำหรับการ Debug ก็สามารถทำได้ โดยโหมด Debug จะเป็นโหมดเริ่มต้นของพอร์ตนี้เสมอ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องการทำงานของพอร์ตนี้ก่อน จึงจะสามารถใช้งานบอร์ดนี้ได้ โดยพอร์ต UART นี้มีพินเฉพาะและเกี่ยวข้องกับพิน UART ที่มีอยู่บน GPIO 40 พิน ซึ่งพอร์ตนี้ สามารถใช้งานร่วมกับ Raspberry Pi Debug Probe ได้

 

พอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อพัดลมโดยเฉพาะ

ตามหลักฟิสิกส์ง่ายๆ การใช้งานพลังงานที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดความร้อนมากขึ้น เช่นเดียวกับบอร์ด Raspberry Pi 5 จำเป็นที่จะต้องมีการจัดการระบายความร้อนที่ดี ดังนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งพัดลมระบายความร้อน Raspberry Pi 5 จึงมาพร้อมกับพอร์จสำหรับการเชื่อมต่อพัดลมที่ออกแบบมาสำหรับ Raspberry Pi 5 โดยเฉพาะ โดยพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อพัดลมระบายความร้อนจะจ่ายไฟให้กับพัดลมโดยอาศัยการควบคุมความเร็วการหมุนด้วย PWM และการตรวจสอบความเร็วการหมุนของพัดลม ณ ปัจจุบัน เพื่อให้ความเร็วการหมุนของพัดลม สอดคล้องกับสภาพอุณหภูมิของตัวบอร์ด Raspberry Pi มากที่สุด โดยตัวพัดลมนั้น สามารถติดตั้งเข้ากับตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 ได้แบบ Plug-and-Play พร้อมทั้งเคส Raspberry Pi 5 อย่างเป็นทางการ รวมถึง Heatsink แบบใหม่ (Active Cooler) ซึ่งเพียงใช้งาน Raspberry Pi OS (Bookworm) เวอร์ชันล่าสุด ตัวพัดลมก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมควบคุมความเร็วเพื่อทำให้บอร์ดเย็นลง โดยพินสำหรับควบคุมพัดลมและพินสำหรับอ่านค่าความเร็วจากพัดลมได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะและเป็นอิสระจาก GPIO 40 พิน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน GPIO 40 พินได้แม้ว่าจะติดตั้งพัดลมระบายความร้อนแล้วก็ตาม

ใช้งานอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วของ Raspberry Pi 4 Model B ได้หรือเปล่า?

 

เดี๋ยวก่อน! ถ้าคุณมี Raspberry Pi 4 Model B, PSU, เคส และอุปกรณ์เสริมทั้งหมดอยู่แล้วล่ะ คุณสามารถใช้สิ่งนั้นกับ Raspberry Pi 5 ได้หรือเปล่า?

คำตอบคือ ได้บางส่วน ลองมาดูจากรายการด้านล่างว่า อุปกรณ์ใดจาก Raspberry Pi 4 Model B นำมาใช้งานกับ Raspberry Pi 5 ได้บ้าง!

 

 

อุปกรณ์เดิมจาก Raspberry Pi 4 Model B ที่ยังคงใช้งานกับ Raspberry Pi 5 ได้:

  • สายสัญญาณ micro HDMI to full-size (standard) HDMI สำหรับการเชื่อมต่อจอภาพ
  • จอ LCD แบบ Touch Screens - แต่ต้องใช้งานร่วมกับสายเคเบิลแบบ FPC (สายรุ่นใหม่)
  • กล้องสำหรับ Raspberry Pi (CSI camera) - แต่ต้องใช้งานร่วมกับสายเคเบิลแบบ FPC (สายรุ่นใหม่)
  • HAT ทุกรุ่นที่ใช้งาน 40-pin GPIO ของบอร์ด Raspberry Pi 
  • อุปกรณ์เชื่อมต่อผ่าน USB เช่น เมาส์, คีย์บอร์ด, USB Webcam เป็นต้น 
  • สาย Ethernet (RJ45) 

 

อุปกรณ์เดิมจาก Raspberry Pi 4 Model B ที่ไม่สามารถใช้งานกับ Raspberry Pi 5 ได้:

 

  • เคส
  • พัดลมระบายความร้อน
  • micro SD Card - ในปัจจุบัน Raspberry Pi 5 จะสามารถใช้งานกับ Raspberry Pi OS เวอร์ชันใหม่เท่านั้น (Bookworm) โดยจะไม่สามารถใช้งาน Raspberry Pi OS (Bullseye) เวอร์ชันเก่าได้ โดยคุณสามารถสั่งซื้อ MakerDisk microSD รุ่นใหม่ที่ติดตั้ง Raspberry Pi OS Bookworm ไว้พร้อมใช้งานแล้ว สามารถติดตั้งใช้งานกับ Raspberry Pi 5 ได้ทันที!

 

แนะนำให้เปลี่ยน (อัพเกรด):

  • 5V/ 5A PSU - คุณยังคงสามารถใช้ PSU USB-C 5V/ 3A ตัวเก่าจาก Raspberry Pi 4 Model B เพื่อบูต Raspberry Pi 5 ได้ แต่สำหรับบางแอปพลิเคชัน พลังงานจาก PSU อาจไม่เพียงพอ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ Raspberry Pi 5 เราขอแนะนำให้คุณซื้อ PSU 5V/ 5A PD รุ่นใหม่

 

สิ่งที่ต้องมีเพื่อเริ่มต้นใช้งาน Raspberry Pi 5?

 

 

1. ตัวบอร์ด Raspberry Pi 5 :

  • Raspberry Pi 5 8GB RAM, เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ (RAM) เช่น การสร้างสื่อ, เว็บเซิร์ฟเวอร์ และการทำคลัสเตอร์ (Docker cluster), การใช้งาน AI, Image Processing
  • Raspberry Pi 5 4GB RAM, เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการหน่วยความจำขนาดปานกลาง (RAM) เช่น การท่องอินเทอร์เน็ตทั่วไป, ใช้งานเป็นเซิร์ฟเวอร์ หรือ Media Center

 

2. USB-C Power Supply หรือ Power Adapter:

 

3. Raspberry Pi OS เวอร์ชันล่าสุด (Bookworm). Raspberry Pi 5 สามารถใช้งานได้กับ Raspberry Pi OS Bookworm เท่านั้น โดยคุณสามารถหาได้จากที่นี่:

  • MakerDisk microSD card ที่ได้ติดตั้ว Raspberry Pi OS Bookworm ให้ล่วงหน้าแล้ว (พร้อมวางจำหน่าย เร็วๆนี้)
  • ใช้งาน microSD card ที่มีอยู่แล้ว เพื่อสร้าง microSD card สำหรับการใช้งานกับ Raspberry Pi 5 ขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยใช้โปรแกรม Raspberry Pi Imager

 

4. สายเคเบิล micro HDMI เป็น full-size HDMI :

 

5. เคสสำหรับปกป้อง Raspberry Pi 5 จากสภาพแวดล้อมภายนอก พร้อมทั้งพัลมสำหรับระบายความร้อนให้กับตัวบอร์ด :

 

6. คู่มือการใช้งานแบบทีละขั้นตอน มาพร้อมสีสันสดใสสำหรับคุณในการเริ่มต้นโดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน Raspberry Pi 5 ฉบับที่ 5 (เร็วๆ นี้)

 

 

คุณสมบัติ

คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะ:

  • Processor:
    • Broadcom BCM2712
    • 64-bit ARM Cortex-A76 (ARMv8.2)
    • Quad-core
    • 16nm Processor SoC
    • Clocked @ 2.4GHz
    • 512KB pre-core L2 caches and a 2MB shared L3 cache
    • With a metal body for better heat dissipation
  • SDRAM:
    • LPDDR4X-4267
    • 8GB and 4GB variants are available at the launch
  • 2 x USB3.0 Port, capable of 5Gbps simultanouesly
  • 2 x USB2.0 Port
  • VideoCore: VII GPU, supporting OpenGL ES 3.1, Vulkan 1.2
  • Dual micro-HDMI port, support 4Kp60 with HDR support
  • 4Kp60 HEVC decoder
  • Image/Camera input: 2 x 4-lane MIPI 22-way CSI/DSI port
  • Storage:
    • MicroSD slot, with support for high-speed SDR104 mode
    • Optional interface via PCIe socket, supporting NVMe SSD
  • True Gigabit Ethernet, with PoE+ HAT support (Need a new PoE+ HAT for Raspberry Pi 5)
  • Wireless: 2.4GHz and 5GHz IEEE 802.11.b/g/n/ac wireless LAN, Bluetooth 5.0 and BLE (Bluetooth Low Energy)
  • PCIe 2.0 x 1 interface for fast peripherals, for example, NVMe SSD (requires compatible HAT)
  • Dedicated UART debug port, independent from 40-pin GPIO. Always enabled.
  • Dedicated Fan port for cooling fan, PWM, and Tachometer feedback ready
  • Expanded 40-pin GPIO Header
  • Low-Level Peripherals:
    • 27 x GPIO
    • UART
    • I2C bus
    • SPI bus with two chip selects
    • +3.3V
    • +5V
    • Ground
  • Newly integrated RTC on PMIC (Power Management IC), with connector for rechargeable coin cell battery
  • Power Button (for proper shutdown, reset, or wakeup)
  • Power Requirement, 5V/5.0A via USB type C connector, with PD (Power Delivery) support.
  • Bootable with the latest Raspberry Pi OS Bookworm ONLY, and check 3rd party Operating System coming soon.
  • Dimensions: 88mm x 56mm x 17mm

 
รายการบรรจุภัณฑ์

Mainboard Only

  • 1 x Raspberry Pi 5 Computer, with the selected RAM

 

Ori Kit

  • 1 x Raspberry Pi 5 Computer, with the selected RAM
  • 1 x Raspberry Pi USB-C PD 27W PSU - EU Plug 
  • 1 x Official Raspberry Pi 5 Case, Red/White 
  • 1 x Raspberry Pi 5 Heatsink and Active Cooler 
  • 1 x 32GB MakerDisk microSD Card 

 

Q & A

Ask a question

ความคิดเห็น
  • 4.9 out of 5
                  
เรียงตาม:

แท็ก: Pi5, Pi 5, RPi 5, RPI5, Raspberry Pi5, Raspberry Pi,