ดูวิดีโอประกอบได้ที่นี่ :
กล้องถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นวัตถุที่ถูกพิมพ์ขึ้นมาบนฐานพิมพ์ได้โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องมาที่หน้าเครื่องพิมพ์ โดยหลายคนอาจเลือกใช้วิธีการที่ง่ายที่สุดอย่างการนำกล้องวงจรปิดแบบไร้สายมาวางไว้หน้าเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อที่จะสามารถดูการทำงานของเครื่องพิมพ์ได้ตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่า Octoprint ก็สามารถเชื่อมต่อกับกล้องได้ และสามารถดูภาพมอนิเตอร์แบบเรียบไลทม์ได้เช่นกัน โดยก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า กล้องที่สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับ Octoprint ที่รันอยู่บน Raspberry Pi นั้นมีหลายประเภท ซึ่งก็มีความสามารถและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. กล้องประเภท Webcam และ กล้อง Raspberry Pi
- เชื่อมต่อใช้งานได้ง่าย
- สามารถใช้ในการ monitor การพิมพ์ของตัวเครื่องพิมพ์แบบ Realtime ได้
- สามารถใช้ในการถ่ายทำ Timelapse ได้เช่นกัน
2. กล้องถ่ายภาพ เช่น DSLR หรือ กล้องดิจิตอลถ่ายภาพ
- ไม่สามารถใช้ในการ monitor การพิมพ์ของตัวเครื่องพิมพ์แบบ Realtime ได้
- สามารถใช้ในการถ่ายทำ Timelapse ได้และมีประสิทธิภาพและความคมชัดที่มากกว่า
วิธีการเพิ่มกล้องให้กับ Octoprint สำหรับกล้องประเภท Webcam และกล้องสำหรับ Raspberry Pi
ขั้นตอนที่ 1 : แก้ไขไฟล์ octopi.txt ใน boot directory ของ Raspberry Pi
- ทำการเชื่อมต่อ SSH เข้าไปยังบอร์ด Raspberry Pi ที่รัน Octoprint อยู่ โดย Default Username และ Password ของ Octoprint คือ pi และ raspberry ตามลำดับ
- หลังจากทำการ remote SSH เข้าไปได้แล้ว ให้ทำการแก้ไขไฟล์ octopi.txt โดยใช้คำสั่ง
sudo nano /boot/octopi.txt
- ลบ # ที่บรรทัด camera=”auto” แล้วเปลี่ยนเป็น usb (กรณีกล้อง Webcam USB) หรือ raspi (กรณีกล้อง Raspberry Pi CSI)
- กรณีกล้อง USB ให้ลบ # หน้าบรรทัด camera_usb_options="-r 640x480 -f 10" แล้วแก้ในเครื่องหมายคำพูดให้เป็น resolution (-r) และ frame rate (-f) ตามที่ต้องการ
ตัวอย่างcamera_usb_options="-r 1920x1080 -fps 10"
- กรณีกล้อง Raspberry Pi ให้ลบ # หน้าบรรทัด camera_raspi_options="-fps 10" แล้วแก้ในเครื่องหมายคำพูดให้เป็น resolution (-x 1920 -y 1080 สำหรับ full HD) และ frame rate (-fps) ตามที่ต้องการ
ตัวอย่างcamera_raspi_options="-x 1920 -y 1080 -fps 10"
*การติงตั้งกล้องประเภทนี้กับ Raspberry Pi กรณีกล้อง USB สามารถเสียบ USB เข้ากับตัวบอร์ดได้เลย แต่สำหรับ CSI interface ให้ทำการปิดตัวบอร์ดก่อนทุกครั้ง จึงค่อยทำการเสียบสายแพเข้ากับตัวบอร์ด โดยหลังจากติดตั้งเสร็จแล้วจึงค่อยเปิดตัวบอร์ดขึ้นใหม่อีกครั้ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับกล้องประเภท CSI หรือตัวบอร์ด Raspberry Pi ได้
โดยเพียงเท่านี้ หากบอร์ดเปิดขึ้นมาอีกครั้งก็จะพบว่ากล้องพร้อมที่จะใช้งานแล้ว โดยหากไปเปิดดูที่หน้า Control ของ Octoprint ก็จะพบภาพจากกล้องที่เราเชื่อมต่อแสดงผลอยู่
วิธีการเพิ่มกล้องให้กับ Octoprint สำหรับกล้องประเภท DSLR หรือกล้องถ่ายภาพทั่วไปที่รองรับ
- ทำการเชื่อมต่อ SSH เข้าไปยังบอร์ด Raspberry Pi ที่รัน Octoprint อยู่ โดย Default Username และ Password ของ Octoprint คือ pi และ raspberry ตามลำดับ
- ทำการติดตั้ง service ที่ชื่อ gphoto ด้วยคำสั่ง
sudo apt-get install gphoto2
- ทำการแก้ไขไฟล์โดยใช้คำสั่ง
sudo visudo
โดยจะพบกับไฟล์ลักษณะเหมือนด้านล่าง#
ให้ทำการเพิ่มบรรทัดนี้ไว้ด้านล่างสุดของไฟล์
# This file MUST be edited with the 'visudo' command as root.
#
# Please consider adding local content in /etc/sudoers.d/ instead of
# directly modifying this file.
#
# See the man page for details on how to write a sudoers file.
# Defaults env_reset Defaults mail_badpass Defaults secure_path="/root/bin:/usr/local/sbin:/usr/local/bin:/usr/sbin:/usr/bin:/sbin:/bin"
# Host alias specification
# User alias specification
# Cmnd alias specification
# User privilege specification
root ALL=(ALL:ALL) ALL
# Allow members of group sudo to execute any command
%sudo ALL=(ALL:ALL) ALL
# See sudoers(5) for more information on "#include" directives:
#includedir /etc/sudoers.d# allow 'sudo gphoto2' to run without supplying a password pi ALL = (root) NOPASSWD: /usr/bin/gphoto2
- หลังจากนั้นกด Ctrl+O เพื่อ save และ Ctrl+X เพื่อออก แล้วทำการรีบูทตัวบอร์ดโดยใช้คำสั่ง
sudo reboot now
หลังจาก reboot เสร็จสิ้น ให้นำกล้องมาเชื่อมต่อกับบอร์ด Raspberry Pi โดยใช้สาย USB ที่สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ แล้วใช้คำสั่ง
gphoto2 --auto-detect
โดยจะเป็นการค้นหากล้องที่รองรับการใช้งานร่วมกับ Raspberry Pi ที่เชื่อมต่ออยู่ในขณะนี้โดยอัตโนมัติ
*ตรวจสอบรายชื่อกล้องที่รองรับได้โดย คลิกที่นี่!
โดยหากตรวจพบกล้องที่เชื่อมต่ออยู่แล้ว สามารถใช้คำสั่ง
gphoto2 --capture-image
เพื่อลองให้ถ่ายภาพได้ หรือจะใช้คำสั่งgphoto2 --capture-image-and-download
เพื่อสั่งให้กล้องถ่ายภาพแล้วทำการดาว์นโหลดภาพจากกล้องมาบันทึกลงบน Raspberry Pi ก็ได้
โดยหากทุกขั้นตอนข้างต้นใช้งานได้ดี แปลว่าคุณพร้อมที่จะถ่าย Timelapse ด้วยกล้องถ่ายภาพแล้ว
เป็นอย่างไรบ้างครับกับวิธีการเพิ่มกล้องให้ Octoprint ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะครับ โดยนอกเหนือจากการที่เราสามารถมอนิเตอร์การทำงานของตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติผ่านทางกล้องที่ติดตั้งอยู้ได้แล้ว เรายังสามารถที่จะนำภาพที่ได้จากกล้องมาทำ Timelapse แสดงถึงการพิมพ์ขึ้นมาของโมเดล 3 มิติได้ด้วยนะ หากสนใจ อ่านบทความถัดไปต่อได้เลย :
Octoprint The Series - EP5. ถ่ายทำ Timelapse สุดเจ๋งด้วย Octolapse
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านบทความก่อนหน้าเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ใช้งาน Octoprint ระยะไกล สามารถอ่านได้ที่นี่ :
Octoprint The Series - EP5. ถ่ายทำ Timelapse สุดเจ๋งด้วย Octolapse
เพื่อความสะดวกในการเริ่มต้นใช้งาน Octoprint ทาง Cytron Thailand ได้จัดเตรียมชุดอุปกรณ์พร้อมใช้งาน Octoprint ไว้ให้คุณแล้ว หากสนใจสามารถคลิกเพื่อดูได้ ที่นี่!
Artillery Hornet Octoprint ready kit